เจอปัญหาเว็บไซต์ช้า บอกลาด้วย Load balancer กัน!
พาไปรู้จักกับ Load balancer ตัวช่วยสำหรับคนทำธุรกิจที่มักติดปัญหา เว็บไซต์ over load
พร้อมเหตุผลที่ควรมี Load balancer
Load Balancer คืออะไร? คือระบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพที่สูง รองรับการทำงานหรือรองรับ workload จำนวนมากได้เป็นอย่างดี เป็นการช่วยกระจายงานให้ได้ประสิทธิภาพ โดยจะนำเซิร์ฟเวอร์หลายๆ เครื่องที่มีการทำงานเดียวกันมาใช้ทำงานร่วมกันเพื่อกระจายปริมาณงานไปยังแต่ละเครื่อง ทำให้ระบบสามารถรองรับการทำงานหนักๆ ได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีความยืดหยุ่นในการออกแบบระบบให้เหมาะกับทุกสถานการณ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน เจ้าของธุรกิจเอง
ดังนั้นเรียกได้ว่า Load balancer เป็นระบบกระจายการใช้งานของ Users หรือ clients ไปยังเซอร์วิสที่อยู่ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพื่อลดระยะเวลาของเครื่อง รวมถึงลดโอกาสในการเกิดปัญหาจากการใช้งานของ users ที่มีทราฟฟิกเข้าเว็บไซต์ในปริมาณมาก
ข้อดีของการมี Load Balancer มีด้วยกันดังนี้
- ช่วยให้เว็ปไซต์หรือเซอร์วิสมีระบบที่ช่วยรองรับตลอดเวลา
การใช้ load balancer ช่วยจัดการทราฟฟิกการใช้งานของยูสเซอร์ไปยังเว็บไซต์ที่อยู่หลายๆ เซิร์ฟเวอร์ได้ กล่าวคือเป็นตัวช่วยที่มี High Availability (HA) มากขึ้น หากหน้าไซต์ใดหรือเซอร์วิสดังกล่าวเกิดปัญหาไม่สามารถให้บริการได้ load balancer จะมีการ health check เพื่อตรวจสอบ โดยหยุดส่งทราฟฟิกของยูสเซอร์ไปที่เว็บไซต์หรือเซอร์วิสปลายทางของเซิร์ฟเวอร์นั้นทันที แล้วทำการส่งไปยังเซอร์วิสใหม่บนเซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมให้บริการ ซึ่งทำให้แอปพลิเคชันสามารถให้บริการและใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เกิดปัญหาในการใช้งาน - เพิ่มประสิทธิภาพให้เซอร์วิสหรือระบบเว็บไซต์ ด้วยการทำ load balancing
กรณีที่ต้องรองรับการใช้งานของยูสเซอร์ที่มีจำนวนมากขึ้น เราสามารถที่จะเพิ่มจำนวนของหน้าไซต์หรือเซอร์วิสโดยการเพิ่มจำนวนของเซิร์ฟเวอร์ และกำหนดอัลกอริทึมสำหรับจัดการทราฟฟิกการใช้งานของยูสเซอร์ให้สอดคล้องกับ resource ของเซิร์ฟเวอร์นั้นๆ ได้ - ช่วยเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์หรือเซอร์วิส
เนื่องจาก load balancer ทำการกระจายทราฟฟิกของยูสเซอร์ไปยังเว็บไซต์ทำงานอยู่บนเซิร์ฟเวอร์หลายๆ เครื่อง ซึ่งจะทำให้การใช้งานของยูสเซอร์ไม่ต้องรอคิวหรือรอ process ข้อมูลที่ต้องใช้เวลานานเหมือนกับหน้าเว็บไซต์อื่นที่ทำงานอยู่บนเซิร์ฟเวอร์เครื่องเดียวที่มี resource อยู่อย่างจำกัดทั้ง CPU เมมโมรี และฮาร์ดดิสก์ ทำให้การใช้งานของยูสเซอร์เร็วขึ้น เช่น สามารถอัปโหลด-ดาวน์โหลดข้อมูลรูปภาพจากเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น เข้าถึงข้อมูลของหน้าเว็บไซต์ได้เร็ว เป็นต้น
Load Balancer Software ที่นิยมนำมาใช้งานหลักๆ ได้แก่
- CentOS 7 เป็นระบบปฏิบัติการ
- Software ที่เป็น Opensource คือ Haproxy มาทำเป็นตัวกระจายโหลด (Load Balancer)
- Apache 2.4 ทำการ Run เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์
- ฐานข้อมูลนั้นนำ Mysql 5.7 มาใช้งาน
- ในการ Sync ข้อมูลระหว่างเครื่องที่เป็นเว็บเซิร์ฟนั้นจะมี Open Source ที่ชื่อว่า Unsion มาทำการ Replicate
- Redis เป็นตัวเก็บ Session โดยการทำงานเป็นแบบ Nosql ซึ่งนำมาเก็บ Session การเรียกใช้งานของเว็บเซิร์ฟเวอร์
หากไม่มี Load Balancer จะเป็นอย่างไร?
แอปพลิเคชันหรือเซอร์วิสไม่สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องได้ เนื่องจากแอปพลิเคชันทำงานอยู่บนเซิร์ฟเวอร์เพียงเครื่องเดียว ในกรณีเกิดปัญหาจึงส่งผลให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้
ไม่สามารถรองรับการให้บริการหรือการใช้งานของยูสเซอร์จำนวนมาก ๆ ได้ เนื่องจากไม่รองรับการขยาย (scale out) ของแอปพลิเคชันหรือเซอร์วิสไปยังเซอร์วิสหลาย ๆ เครื่องได้
การใช้งานของยูสเซอร์ช้าในกรณีที่มีการใช้งานของยูสเซอร์จำนวนมาก เนื่องจากแอปพลิเคชันทำงานอยู่บนเซิร์ฟเวอร์เพียงเครื่องเดียวที่มี resource อยู่อย่างจำกัด
ทั้งหมดคือข้อดีและการทำงานของ Load balancer ที่จะช่วยให้หมดปัญหา website over load และทำให้ทราฟิกในการเข้าเว็บไซต์หรือเซอร์วิสของธุรกิจคุณราบรื่นไม่มีสะดุดอีกด้วย หากสนใจตัวช่วยดีๆ แบบนี้ Nextgenit จะช่วยตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาได้ด้วย load balancer คุณภาพมาตรฐานสากล นอกจากนี้ยังเป็นผู้จำหน่ายเราท์เตอร์ wifi เกทเวย์คุณภาพ ศูนย์รวมสินค้าหลากหลาย ที่คุณภาพคุ้มค่า มั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าที่ดี การันตีความพึงพอใจ
บริษัท เน็กซ์เจนไอที จำกัด (สำนักงานใหญ่) NeXTGENiT ตัวแทนจำหน่าย Ruijie Reyee MikroTik Ubiquiti แหล่งจำหน่าย เราท์เตอร์ wifi ไฟร์วอลล์ เกทเวย์ แอคเซสพอยต์ Load balance ไฟเบอร์ออฟติก คุณภาพ ของแท้ บริการรวดเร็วทันใจ ส่งไวเคลมไว
ติดต่อสอบถาม
บริษัท เน็กซ์เจนไอที จำกัด (สำนักงานใหญ่)
225 ถนนพิบูลสงคราม ตำบลสวนใหญ่
อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000
LINE ID : @NEXTGENIT
HOTLINE : 080-9879879